ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
ตามแนวทางการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูงตามแนวทาง VASK (Values-Attitudes-Skills-Knowledge) และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 รวมถึงการออกแบบข้อสอบตามแนวทาง PISA เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อการคิดขั้นสูง
ข้อมูลทั่วไป
หน่วยการเรียนรู้: การวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหา
รายวิชา: วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
ระดับชั้น: มัธยมศึกษาปีที่ 4
เวลา: 6 คาบ (คาบละ 50 นาที)
ผู้สอน: ………………………
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
- ว 3.2 ม.4/10 วิเคราะห์และอธิบายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
- ว 3.2 ม.4/11 ตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตนให้เหมาะสม
สาระสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิต และระบบนิเวศ การศึกษาสาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมของมนุษย์กับปัญหาสิ่งแวดล้อม และสามารถพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมบนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งการจัดการเรียนรู้นี้ยังมุ่งพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงตามแนวทาง VASK และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยให้นักเรียนได้วิเคราะห์ ประเมินค่า และสร้างสรรค์แนวทางแก้ไขปัญหาผ่านกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
- อธิบายสาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
- วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระบบนิเวศและมนุษย์ได้
- อธิบายแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับต่างๆ ได้
ด้านทักษะ (Skills)
- วิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
- ประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
- ออกแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับท้องถิ่นได้
- สื่อสารและนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านเจตคติ (Attitudes)
- แสดงความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- แสดงความสนใจในการแสวงหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อม
- แสดงความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
ด้านค่านิยม (Values)
- แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
- แสดงความซื่อสัตย์ทางปัญญาในการอ้างอิงข้อมูลและการแสดงความคิดเห็น
- เคารพความคิดเห็นที่แตกต่างในประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สาระการเรียนรู้
- สาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ปรากฏการณ์เรือนกระจกและภาวะโลกร้อน
- กิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- วัฏจักรคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางบกและทางทะเล
- ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
- ผลกระทบต่อมนุษย์ (สุขภาพ อาหาร เศรษฐกิจ สังคม)
- แนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- นโยบายและความร่วมมือระดับนานาชาติ
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- บทบาทของปัจเจกบุคคลในการแก้ไขปัญหา
กิจกรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1: สาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขั้นนำ (10 นาที)
- ครูเปิดวิดีโอสั้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก (เช่น การละลายของธารน้ำแข็ง การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ภัยแล้ง น้ำท่วม)
- ครูตั้งคำถามกระตุ้นความสนใจ:
- นักเรียนคิดว่าเหตุการณ์ในวิดีโอเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
- นักเรียนเคยได้ยินหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่?
ขั้นสอน (30 นาที)
- ครูนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประกอบด้วย:
- ปรากฏการณ์เรือนกระจกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์
- กราฟแสดงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกและการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ
- ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมของมนุษย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาบทความหรือข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านต่างๆ เช่น:
- การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- การตัดไม้ทำลายป่า
- การทำเกษตรกรรมและปศุสัตว์
- กระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
- การจัดการของเสีย
- ให้แต่ละกลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำแผนผังเชื่อมโยงกิจกรรมของมนุษย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยระบุ:
- กิจกรรมของมนุษย์
- ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมนั้น
- ผลกระทบต่อวัฏจักรคาร์บอนหรือระบบภูมิอากาศ
ขั้นสรุป (10 นาที)
- ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอแผนผังที่จัดทำขึ้น กลุ่มละ 1-2 นาที
- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ครูมอบหมายให้นักเรียนค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านต่างๆ สำหรับกิจกรรมในคาบต่อไป
คาบที่ 2-3: การวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขั้นนำ (10 นาที)
- ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากคาบที่แล้ว
- ครูนำเสนอข่าวหรือกรณีศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือในท้องถิ่น
- ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับเหตุการณ์ในข่าว
ขั้นสอน (80 นาที)
- ครูนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านต่างๆ (20 นาที)
- ผลกระทบทางกายภาพ (การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบฝน)
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศ (การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การเปลี่ยนแปลงของถิ่นที่อยู่อาศัย)
- ผลกระทบต่อมนุษย์ (สุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจ การอพยพย้ายถิ่น)
- กิจกรรม “นักวิเคราะห์ผลกระทบสภาพภูมิอากาศ” (60 นาที)
- แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน
- แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านใดด้านหนึ่ง:
- กลุ่มที่ 1: ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางบก
- กลุ่มที่ 2: ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
- กลุ่มที่ 3: ผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร
- กลุ่มที่ 4: ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์
- กลุ่มที่ 5: ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
- ให้แต่ละกลุ่มค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย (เอกสาร บทความวิชาการ เว็บไซต์ ฯลฯ) (20 นาที)
- ให้แต่ละกลุ่มจัดทำแผนผังความคิด (Mind Map) หรือแผนภาพสาเหตุและผลกระทบ (Cause and Effect Diagram) ที่แสดงความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับผลกระทบในด้านที่ศึกษา (20 นาที)
- ให้แต่ละกลุ่มวิเคราะห์และประเมินความรุนแรงของผลกระทบในระดับโลก ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น พร้อมให้เหตุผลประกอบ (20 นาที)
ขั้นสรุป (10 นาที)
- ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์โดยสังเขป กลุ่มละ 2 นาที
- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านต่างๆ และความเชื่อมโยงระหว่างผลกระทบเหล่านั้น
- มอบหมายให้แต่ละกลุ่มเตรียมนำเสนอผลการวิเคราะห์อย่างละเอียดในคาบถัดไป
คาบที่ 4: การนำเสนอและประเมินผลการวิเคราะห์
ขั้นนำ (5 นาที)
- ครูทบทวนกิจกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากคาบที่แล้ว
- ครูแจ้งเกณฑ์การประเมินการนำเสนอและการให้ข้อเสนอแนะ
ขั้นสอน (40 นาที)
- แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในด้านที่ศึกษา กลุ่มละ 7-8 นาที โดยนำเสนอ:
- ข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงผลกระทบ
- การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับผลกระทบ
- การประเมินความรุนแรงของผลกระทบในระดับต่างๆ
- การประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่ใช้
- หลังการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม ให้กลุ่มอื่นๆ ซักถามและให้ข้อเสนอแนะ (กลุ่มละ 1-2 นาที)
ขั้นสรุป (5 นาที)
- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความเชื่อมโยงระหว่างผลกระทบในด้านต่างๆ และความสำคัญของการแก้ไขปัญหา
- ครูแนะนำกิจกรรมในคาบต่อไปเกี่ยวกับการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- มอบหมายให้นักเรียนศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
คาบที่ 5-6: การพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขั้นนำ (10 นาที)
- ครูนำเสนอตัวอย่างแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีการดำเนินการในระดับต่างๆ:
- ระดับนานาชาติ (เช่น ความตกลงปารีส)
- ระดับประเทศ (เช่น นโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก)
- ระดับท้องถิ่น (เช่น โครงการอนุรักษ์ป่าชุมชน)
- ระดับองค์กร (เช่น การใช้พลังงานทดแทน)
- ระดับบุคคล (เช่น การลดการใช้พลาสติก)
- ครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิด:
- แนวทางเหล่านี้มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร?
- นักเรียนคิดว่าแนวทางใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด? เพราะเหตุใด?
ขั้นสอน (80 นาที)
- กิจกรรม “นวัตกรรมเพื่อโลกยั่งยืน” (80 นาที)
- แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน (อาจเป็นกลุ่มเดิมหรือจัดกลุ่มใหม่)
- ให้แต่ละกลุ่มเลือกประเด็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สนใจและส่งผลกระทบต่อท้องถิ่น
- ให้แต่ละกลุ่มดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- วิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบของปัญหาที่เลือก (15 นาที)
- ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่แล้ว และวิเคราะห์ข้อดีและข้อจำกัด (15 นาที)
- ระดมความคิดเพื่อพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น (20 นาที)
- จัดทำโครงร่างของแนวทางการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย (30 นาที):
- ชื่อโครงการ
- วัตถุประสงค์
- กลุ่มเป้าหมาย
- วิธีการดำเนินงาน
- ทรัพยากรที่ต้องใช้
- ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- การวัดและประเมินผล
- ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอโครงร่างของแนวทางการแก้ไขปัญหา กลุ่มละ 3-5 นาที (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนกลุ่ม)
- หลังการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม ให้นักเรียนกลุ่มอื่นและครูร่วมกันให้ข้อเสนอแนะ โดยพิจารณาจาก:
- ความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติจริง
- ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา
- ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
- ความเหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น
ขั้นสรุป (10 นาที)
- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีประสิทธิภาพ
- ครูให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำแนวทางการแก้ไขปัญหาไปปฏิบัติจริง
- มอบหมายให้แต่ละกลุ่มปรับปรุงแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะและจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์
- เสนอให้นักเรียนพิจารณานำแนวทางการแก้ไขปัญหาไปพัฒนาเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์หรือโครงการจิตอาสาต่อไป
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
- สื่อนำเสนอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (PowerPoint, Infographic)
- วิดีโอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลก
- วิดีโอจาก NASA Climate Change: “Climate Change: How Do We Know?” (https://climate.nasa.gov/evidence/)
- วิดีโอจาก National Geographic: “Climate 101: Causes and Effects”
- ข้อมูลและกราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกและระดับก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ
- ข้อมูลจาก NASA Global Climate Change (https://climate.nasa.gov/vital-signs/carbon-dioxide/)
- ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)
- บทความวิชาการและรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- รายงานของ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change)
- บทความจากวารสารวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
- ข่าวและกรณีศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
- ข่าวจากสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม (GreenNews)
- กรณีศึกษาจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
- อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม (กระดาษฟลิปชาร์ท ปากกาเคมี กระดาษโน้ต สติกเกอร์)
- เว็บไซต์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและแนวทางการแก้ไขปัญหา
- เว็บไซต์ UNFCCC (United Nations Framework Convention on Climate Change)
- เว็บไซต์องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
- เว็บไซต์ศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยรังสิต
การวัดและประเมินผล
1. การประเมินด้านความรู้ (Knowledge)
เครื่องมือ: แบบทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกณฑ์การประเมิน:
- ระดับดีมาก (90-100%): อธิบายสาเหตุ กลไก และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุม และมีการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเด็นต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
- ระดับดี (75-89%): อธิบายสาเหตุ กลไก และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างถูกต้องและครอบคลุม
- ระดับพอใช้ (60-74%): อธิบายสาเหตุ กลไก และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
- ระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 60%): อธิบายสาเหตุ กลไก และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้บางส่วนและไม่ถูกต้องในหลายประเด็น
2. การประเมินด้านทักษะ (Skills)
เครื่องมือ: แบบประเมินการวิเคราะห์ข้อมูลและการนำเสนอ เกณฑ์การประเมิน:
ประเด็นการประเมิน | ระดับดีมาก (4) | ระดับดี (3) | ระดับพอใช้ (2) | ระดับปรับปรุง (1) |
---|---|---|---|---|
การวิเคราะห์ข้อมูล | วิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง ครอบคลุม ลึกซึ้ง และมีการเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ | วิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง ครอบคลุม และมีการเชื่อมโยง | วิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ | วิเคราะห์ข้อมูลได้เพียงบางส่วนและไม่เป็นระบบ |
การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล | ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้อย่างมีวิจารณญาณ มีเกณฑ์ชัดเจน และให้เหตุผลประกอบอย่างสมเหตุสมผล | ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้และให้เหตุผลประกอบ | ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้แต่ให้เหตุผลไม่ชัดเจน | ไม่มีการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลหรือประเมินไม่ถูกต้อง |
การออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหา | ออกแบบแนวทางที่สร้างสรรค์ เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา | ออกแบบแนวทางที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติและมีประสิทธิภาพ | ออกแบบแนวทางที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติแต่อาจมีข้อจำกัดบางประการ | ออกแบบแนวทางที่ไม่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติหรือไม่มีประสิทธิภาพ |
การสื่อสารและนำเสนอ | สื่อสารข้อมูลได้ชัดเจน เข้าใจง่าย น่าสนใจ และใช้สื่อประกอบอย่างมีประสิทธิภาพ | สื่อสารข้อมูลได้ชัดเจนและใช้สื่อประกอบเหมาะสม | สื่อสารข้อมูลได้พอเข้าใจและมีการใช้สื่อประกอบ | สื่อสารข้อมูลไม่ชัดเจนและใช้สื่อประกอบไม่เหมาะสม |
3. การประเมินด้านเจตคติ (Attitudes) และค่านิยม (Values)
เครื่องมือ: แบบสังเกตพฤติกรรมและแบบบันทึกการสะท้อนคิด เกณฑ์การประเมิน:
ประเด็นการประเมิน | ระดับดีมาก (4) | ระดับดี (3) | ระดับพอใช้ (2) | ระดับปรับปรุง (1) |
---|---|---|---|---|
ความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม | แสดงความตระหนักถึงปัญหาอย่างชัดเจน เห็นความสำคัญ และกระตือรือร้นในการหาแนวทางแก้ไข | แสดงความตระหนักถึงปัญหาและเห็นความสำคัญของการแก้ไข | แสดงความตระหนักถึงปัญหาแต่ยังไม่เห็นความสำคัญมากนัก | ไม่แสดงความตระหนักถึงปัญหาหรือไม่เห็นความสำคัญ |
ความสนใจในการแสวงหาข้อมูล | แสดงความสนใจ กระตือรือร้นในการค้นคว้า และใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย | แสดงความสนใจและค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ | แสดงความสนใจบ้างและค้นคว้าข้อมูลตามที่กำหนด | ไม่แสดงความสนใจในการค้นคว้าข้อมูล |
ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม | แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และชักชวนผู้อื่น | แสดงความรับผิดชอบและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางประการ | แสดงความรับผิดชอบในระดับหนึ่งแต่ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม | ไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม |
การเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง | รับฟังและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างเต็มที่ พร้อมนำมาพิจารณาอย่างมีวิจารณญาณ | รับฟังและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง | รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ไม่นำมาพิจารณา | ไม่รับฟังหรือไม่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง |
4. การประเมินผลงานกลุ่ม
เครื่องมือ: แบบประเมินโครงร่างแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกณฑ์การประเมิน:
ประเด็นการประเมิน | ระดับดีมาก (4) | ระดับดี (3) | ระดับพอใช้ (2) | ระดับปรับปรุง (1) |
---|---|---|---|---|
ความชัดเจนของปัญหาและวัตถุประสงค์ | ระบุปัญหาและวัตถุประสงค์ได้ชัดเจน ครอบคลุม และสอดคล้องกับบริบท | ระบุปัญหาและวัตถุประสงค์ได้ชัดเจนและสอดคล้องกัน | ระบุปัญหาและวัตถุประสงค์ได้แต่ไม่ชัดเจนหรือไม่ครอบคลุม | ระบุปัญหาและวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจนหรือไม่สอดคล้องกัน |
ความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติ | แนวทางมีความเป็นไปได้สูง สอดคล้องกับทรัพยากรที่มี และมีการคำนึงถึงข้อจำกัดต่างๆ | แนวทางมีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับทรัพยากรที่มี | แนวทางมีความเป็นไปได้แต่อาจมีข้อจำกัดบางประการ | แนวทางไม่มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ |
ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม | แนวทางมีความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหา | แนวทางมีความคิดสร้างสรรค์และตอบโจทย์ปัญหา | แนวทางมีความคิดสร้างสรรค์บ้างแต่ยังไม่แปลกใหม่มากนัก | แนวทางไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ตอบโจทย์ปัญหา |
การวัดและประเมินผล | มีการกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ | มีการกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ | มีการกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลแต่ไม่ชัดเจนหรือไม่ครอบคลุม | ไม่มีการกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลหรือไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ |
การมีส่วนร่วมของทุกคนในกลุ่ม | สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ มีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน | สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมและมีการแบ่งหน้าที่ | สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมแต่การแบ่งหน้าที่ไม่ชัดเจน | มีเพียงสมาชิกบางคนที่มีส่วนร่วมในการทำงาน |
สัดส่วนการประเมินผล
- การประเมินด้านความรู้ (Knowledge): 25%
- การประเมินด้านทักษะ (Skills): 35%
- การประเมินด้านเจตคติ (Attitudes) และค่านิยม (Values): 20%
- การประเมินผลงานกลุ่ม: 20%
บันทึกหลังการสอน
คาบที่ 1: สาเหตุและกลไกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปัญหาและอุปสรรค
- …
- …
แนวทางแก้ไข
- …
- …
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
- …
- …
คาบที่ 2-3: การวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปัญหาและอุปสรรค
- …
- …
แนวทางแก้ไข
- …
- …
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
- …
- …
คาบที่ 4: การนำเสนอและประเมินผลการวิเคราะห์
ปัญหาและอุปสรรค
- …
- …
แนวทางแก้ไข
- …
- …
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
- …
- …
คาบที่ 5-6: การพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปัญหาและอุปสรรค
- …
- …
แนวทางแก้ไข
- …
- …
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
- …
- …
ผลการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
- …
- …
ผลการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียน
- …
- …
แนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในครั้งต่อไป
- …
- …
เอกสารประกอบการสอน
เอกสารประกอบที่ 1: แบบบันทึกการวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ชื่อกลุ่ม: ________________________________ สมาชิกกลุ่ม: ________________________________
1. ประเด็นผลกระทบที่ศึกษา: ________________________________
2. ข้อมูลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
แหล่งข้อมูล | ข้อมูลสำคัญ | ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล |
---|---|---|
3. การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับผลกระทบ
4. การประเมินความรุนแรงของผลกระทบ
ระดับ | ผลกระทบ | เหตุผล |
---|---|---|
ระดับโลก | ||
ระดับประเทศ | ||
ระดับท้องถิ่น |
5. ข้อสังเกตและข้อคิดเห็นเพิ่มเติม
เอกสารประกอบที่ 2: แบบบันทึกการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ชื่อกลุ่ม: ________________________________ สมาชิกกลุ่ม: ________________________________
1. ชื่อโครงการ: ________________________________
2. ประเด็นปัญหาที่ต้องการแก้ไข
3. วัตถุประสงค์
4. กลุ่มเป้าหมาย
5. วิธีการดำเนินงาน
ขั้นตอน | รายละเอียด | ระยะเวลา | ผู้รับผิดชอบ |
---|---|---|---|
6. ทรัพยากรที่ต้องใช้
7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
8. การวัดและประเมินผล
9. การวิเคราะห์ข้อดีและข้อจำกัดของแนวทางการแก้ไขปัญหา
ข้อดี | ข้อจำกัด |
---|---|
เอกสารประกอบที่ 3: แบบประเมินตนเองและการสะท้อนคิด
ชื่อ-นามสกุล: ________________________________ ชั้น: ________________________________
1. สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากหน่วยการเรียนรู้นี้
2. ทักษะที่ฉันได้พัฒนาจากหน่วยการเรียนรู้นี้
3. ความรู้สึกของฉันต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
4. สิ่งที่ฉันจะนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
5. สิ่งที่ฉันอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบตามแนวทาง PISA
เรื่อง: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อโลก
คำชี้แจง
- แบบทดสอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินทักษะการคิดขั้นสูงและการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริง
- แบบทดสอบประกอบด้วย 3 สถานการณ์ รวมทั้งหมด 15 ข้อ
- แบบทดสอบมีทั้งคำถามแบบเลือกตอบและคำถามแบบเขียนตอบ
- เวลาในการทำแบบทดสอบ 60 นาที
สถานการณ์ที่ 1: ก๊าซเรือนกระจกและอุณหภูมิโลก
อ่านข้อความและพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 1-5
ปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ทำให้โลกอบอุ่นเพียงพอสำหรับสิ่งมีชีวิต ก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ ช่วยกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้ในชั้นบรรยากาศ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของมนุษย์ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาได้เพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศอย่างมาก ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น
![กราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี ค.ศ. 1951-1980 (หน่วย: องศาเซลเซียส)]
|
1.0+ *
| * *
| *
| * * *
0.8+ * *
| *
| * * *
| * * *
0.6+ * *
| * * * *
| * *
| * * * *
0.4+ * * *
| * *
| *
|
0.2+
|
|
|
0.0+-------------------------------------------------------------------
1880 1900 1920 1940 1960 1980 2000 2020
ปี ค.ศ.
![กราฟแสดงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศวัดที่หอสังเกตการณ์เมานาลัว ฮาวาย (หน่วย: ส่วนในล้านส่วน, ppm)]
|
420+ * *
| * *
| * *
400+ * *
| * *
| * *
380+ * *
| * *
| * *
360+ * *
| * *
| * *
340+ * *
| * *
| * *
320+ * *
| *
|
300+-------------------------------------------------------------------
1960 1970 1980 1990 2000 2010 2020
ปี ค.ศ.
ตารางแสดงแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญจากกิจกรรมของมนุษย์
แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ร้อยละของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด | ก๊าซเรือนกระจกหลักที่ปล่อย |
---|---|---|
การผลิตไฟฟ้าและความร้อน | 25% | CO₂, N₂O |
การเกษตร การป่าไม้ และการใช้ที่ดิน | 24% | CO₂, CH₄, N₂O |
อุตสาหกรรม | 21% | CO₂, N₂O, HFCs |
การขนส่ง | 14% | CO₂, N₂O |
อาคารที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ | 6% | CO₂, CH₄ |
การจัดการของเสีย | 5% | CH₄, N₂O |
อื่นๆ | 5% | หลากหลาย |
คำถามข้อ 1: (การเข้าถึงและค้นคืนข้อมูล)
จากกราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นประมาณกี่องศาเซลเซียสในช่วงปี ค.ศ. 1960 ถึง ค.ศ. 2020?
ก. 0.2 องศาเซลเซียส
ข. 0.4 องศาเซลเซียส
ค. 0.6 องศาเซลเซียส
ง. 0.8 องศาเซลเซียส
คำถามข้อ 2: (การบูรณาการและตีความ)
จากข้อมูลที่นำเสนอ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก (ตอบไม่เกิน 3 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 3: (การวิเคราะห์)
จากตารางแสดงแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาคส่วนใดที่มีศักยภาพมากที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะเหตุใด (ตอบไม่เกิน 3 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 4: (การประเมินค่า)
พิจารณาข้อความต่อไปนี้: “การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรรมชาติและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของมนุษย์”
คุณเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่? ให้เหตุผลประกอบคำตอบโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่นำเสนอ (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 5: (การสร้างสรรค์)
จากข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก เสนอแนวทางที่เป็นไปได้และมีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่ง โดยระบุ (1) แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (2) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการ และ (3) ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
สถานการณ์ที่ 2: ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระดับน้ำทะเล
อ่านข้อความและพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 6-10
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกส่งผลให้น้ำแข็งและธารน้ำแข็งละลาย รวมถึงการขยายตัวของน้ำทะเลเมื่อร้อนขึ้น ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 20 ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 17 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราที่เร็วขึ้น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
แผนที่แสดงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในประเทศไทย
[ภาพแผนที่แสดงพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยโดยพื้นที่สีแดงคือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ได้แก่ บริเวณอ่าวไทยตอนบน (รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล) พื้นที่ชายฝั่งทะเลในภาคใต้ และพื้นที่ชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออก]ตารางแสดงผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลต่อพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทย
ผลกระทบ | รายละเอียด |
---|---|
การกัดเซาะชายฝั่ง | ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยประสบปัญหาการกัดเซาะรวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร จากชายฝั่งทั้งหมด 3,148 กิโลเมตร |
น้ำท่วมบริเวณพื้นที่ต่ำ | พื้นที่ต่ำชายฝั่งมีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมถาวร โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยตอนบน |
การรุกล้ำของน้ำเค็ม | น้ำเค็มรุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำและแหล่งน้ำจืดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและการผลิตน้ำประปา |
การสูญเสียระบบนิเวศชายฝั่ง | พื้นที่ป่าชายเลน หาดทราย และแนวปะการังได้รับผลกระทบ |
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม | ผลกระทบต่อการประมง การท่องเที่ยว การเกษตร และที่อยู่อาศัยของชุมชนชายฝั่ง |
กราฟแสดงการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในศตวรรษที่ 21 ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ
| กรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง (RCP8.5)
| *
100+ * *
| * *
| * *
80+ * *
| * *
| * *
60+ * *
| * * กรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปานกลาง (RCP4.5)
| * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
40+ * * * *
| * * *
| * *
20+ * *
| * *
| *
|
0+-------------------------------------------------------------------
2000 2020 2040 2060 2080 2100
ปี ค.ศ.
บทความจากนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่าน
นักวิทยาศาสตร์ ก: “การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ข้อมูลจากดาวเทียมและการตรวจวัดระดับน้ำทะเลแสดงให้เห็นว่าระดับน้ำทะเลกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้น หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ ระดับน้ำทะเลอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เมตรภายในปี ค.ศ. 2100 ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนชายฝั่ง รวมถึงกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ”
นักวิทยาศาสตร์ ข: “แม้ว่าระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเพิ่มขึ้นในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน และการคาดการณ์ระดับน้ำทะเลในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนสูง การกัดเซาะชายฝั่งในประเทศไทยมีสาเหตุสำคัญจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การสร้างเขื่อนที่ลดการพัดพาตะกอนลงสู่ทะเล การสูบน้ำบาดาล และการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง มากกว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแก้ไขปัญหาควรมุ่งเน้นที่การจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเหมาะสมมากกว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงอย่างเดียว”
คำถามข้อ 6: (การเข้าถึงและค้นคืนข้อมูล)
จากตารางแสดงผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลต่อพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทย ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยประสบปัญหาการกัดเซาะเป็นระยะทางเท่าใด และคิดเป็นร้อยละเท่าไรของชายฝั่งทั้งหมด
ก. 700 กิโลเมตร, 22.2%
ข. 700 กิโลเมตร, 33.3%
ค. 3,148 กิโลเมตร, 22.2%
ง. 3,148 กิโลเมตร, 33.3%
คำถามข้อ 7: (การบูรณาการและตีความ)
จากกราฟแสดงการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในศตวรรษที่ 21 หากมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง (RCP8.5) เป็นกรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปานกลาง (RCP4.5) จะสามารถลดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในปี ค.ศ. 2100 ได้ประมาณกี่เซนติเมตร
ก. 20 เซนติเมตร
ข. 40 เซนติเมตร
ค. 60 เซนติเมตร
ง. 80 เซนติเมตร
คำถามข้อ 8: (การวิเคราะห์)
เปรียบเทียบมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองท่านเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและการกัดเซาะชายฝั่ง (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 9: (การประเมินค่า)
พิจารณาข้อมูลที่นำเสนอทั้งหมด ประเมินความเสี่ยงของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และให้เหตุผลว่าควรมีมาตรการรับมือหรือไม่ อย่างไร (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 10: (การสร้างสรรค์)
ออกแบบแนวทางการปรับตัวของชุมชนชายฝั่งในประเทศไทยต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
สถานการณ์ที่ 3: การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
อ่านข้อความและพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 11-15
การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีแนวทางหลัก 2 แนวทาง คือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเป้าหมายในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส (และพยายามจำกัดให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส) เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม
กราฟแสดงแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกภายใต้สถานการณ์ต่างๆ และเป้าหมายตามความตกลงปารีส
| กรณีดำเนินธุรกิจตามปกติ (Business as Usual)
| *
60+ * *
| * *
| * *
| * *
50+ * *
| * *
| * *
| * *
40+ * *
| * *
| * *
| * *
30+ * * กรณีดำเนินการตามนโยบายปัจจุบัน
| * * * * * * * * * * * * * * *
| * *
| * *
20+ * *
| * * เป้าหมาย 2°C
| * * * * * * * * * * * * * * *
| * * * *
10+ * * * * เป้าหมาย 1.5°C
| * * * * * * * * * * * * * * * * *
| * * * * * *
| * * * *
0+-------------------------------------------------------------------
2000 2020 2040 2060 2080 2100
ปี ค.ศ.
ตารางแสดงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แนวทาง | ตัวอย่าง | ข้อดี | ข้อจำกัด |
---|---|---|---|
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) | • การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน • การใช้พลังงานหมุนเวียน • การลดการตัดไม้ทำลายป่า • การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน | • แก้ไขปัญหาที่สาเหตุ • ลดความเสี่ยงในระยะยาว • สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ | • ต้องการความร่วมมือระดับโลก • ต้องการการลงทุนสูง • ผลลัพธ์ใช้เวลานาน |
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) | • การสร้างโครงสร้างป้องกันน้ำท่วม • การพัฒนาพันธุ์พืชทนแล้ง • การวางแผนการใช้ที่ดินที่คำนึงถึงความเสี่ยง • ระบบเตือนภัยและการจัดการภัยพิบัติ | • รับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว • สามารถดำเนินการในระดับท้องถิ่น • เห็นผลเร็วกว่า | • ไม่แก้ไขปัญหาที่สาเหตุ • มีขีดจำกัดในการรับมือ • ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามความรุนแรงของผลกระทบ |
บทความเกี่ยวกับทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องการการแก้ไขที่หลากหลาย ไม่มีวิธีการใดเพียงวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ทั้งหมด การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
(1) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน
(2) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) เช่น การสร้างโครงสร้างป้องกันน้ำท่วม การวางแผนการใช้ที่ดิน และ
(3) การดูดซับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Removal) เช่น การปลูกป่า การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องยอมรับว่าผลกระทบบางอย่างของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เกิดขึ้นแล้วและจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต การปรับตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน การดำเนินการทั้งสองแนวทางควบคู่กันไป พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ประเทศไทยและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ประเทศไทยได้มีการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ความตกลงปารีส โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20-25% ภายในปี ค.ศ. 2030 เมื่อเทียบกับกรณีดำเนินธุรกิจตามปกติ ซึ่งประเทศไทยมีการดำเนินการทั้งในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แผนภาพแสดงสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยจำแนกตามภาคส่วน (ข้อมูลปี ค.ศ. 2016)
ภาคพลังงาน
(การผลิตไฟฟ้า การขนส่ง อุตสาหกรรม): 75.5%
ภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์: 7.2%
ภาคเกษตร: 14.6%
ภาคการจัดการของเสีย: 2.7%
คำถามข้อ 11: (การเข้าถึงและค้นคืนข้อมูล)
จากข้อมูลในตารางแสดงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อใดเป็นข้อจำกัดของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation)
ก. ไม่แก้ไขปัญหาที่สาเหตุ
ข. ต้องการความร่วมมือระดับโลก
ค. สามารถดำเนินการในระดับท้องถิ่น
ง. รับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว
คำถามข้อ 12: (การบูรณาการและตีความ)
จากกราฟแสดงแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกภายใต้สถานการณ์ต่างๆ หากทั่วโลกดำเนินการตามนโยบายปัจจุบัน จะบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีสหรือไม่? อธิบายเหตุผล (ตอบไม่เกิน 3 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 13: (การวิเคราะห์)
วิเคราะห์ข้อดีและข้อจำกัดของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) เปรียบเทียบกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) และอธิบายว่าแนวทางใดที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญมากกว่า พร้อมให้เหตุผลประกอบ (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 14: (การประเมินค่า)
ประเมินความเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมายการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามความตกลงปารีส โดยพิจารณาจากข้อมูลที่นำเสนอทั้งหมด และให้ความเห็นว่าสิ่งใดเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว (ตอบไม่เกิน 5 ประโยค)
…………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………..
คำถามข้อ 15: (การสร้างสรรค์)
ในฐานะที่คุณเป็นนักเรียนในประเทศไทย ออกแบบโครงการหรือแผนปฏิบัติการระดับโรงเรียนหรือชุมชนที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยอธิบาย (1) วัตถุประสงค์และเป้าหมาย (2) กิจกรรมที่จะดำเนินการ (3) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และ (4) การวัดผลความสำเร็จ (ตอบไม่เกิน 10 ประโยค)
……………………………………………………………………………………
เฉลยและแนวคำตอบ
สถานการณ์ที่ 1: ก๊าซเรือนกระจกและอุณหภูมิโลก
คำถามข้อ 1: ง. 0.8 องศาเซลเซียส (จากกราฟ อุณหภูมิในปี ค.ศ. 1960 อยู่ที่ประมาณ 0.2 องศาเซลเซียส และในปี ค.ศ. 2020 อยู่ที่ประมาณ 1.0 องศาเซลเซียส ดังนั้นเพิ่มขึ้น 0.8 องศาเซลเซียส)
คำถามข้อ 2: [แนวคำตอบ] จากกราฟทั้งสองแสดงให้เห็นว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศและอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังปี ค.ศ. 1960 ที่ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างก๊าซเรือนกระจกกับปรากฏการณ์โลกร้อน
คำถามข้อ 3: [แนวคำตอบ] ภาคการผลิตไฟฟ้าและความร้อนมีศักยภาพมากที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด (25%) และมีทางเลือกในการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนนี้สามารถดำเนินการได้โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับภาคการเกษตรหรือการใช้ที่ดิน
คำถามข้อ 4: [แนวคำตอบ] ไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ เพราะข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงหลังปี ค.ศ. 1960 ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจากกิจกรรมของมนุษย์ ตารางแสดงแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การผลิตไฟฟ้า การเกษตร และการขนส่ง มีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รวดเร็วในช่วงเวลาอันสั้นไม่สอดคล้องกับวัฏจักรธรรมชาติซึ่งมักใช้เวลานานกว่า
คำถามข้อ 5: [แนวคำตอบ] แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่ง: (1) ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานสะอาด โดยรัฐบาลสนับสนุนผ่านมาตรการทางภาษีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (2) ผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วยรัฐบาล ผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ให้บริการขนส่ง และประชาชนทั่วไป (3) ผลที่คาดว่าจะได้รับคือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไนตรัสออกไซด์จากภาคการขนส่ง ลดมลพิษทางอากาศในเขตเมือง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคการขนส่ง
สถานการณ์ที่ 2: ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระดับน้ำทะเล
คำถามข้อ 6: ก. 700 กิโลเมตร, 22.2% (จากตาราง ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยประสบปัญหาการกัดเซาะรวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร จากชายฝั่งทั้งหมด 3,148 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็น 700 ÷ 3,148 × 100 = 22.2%)
คำถามข้อ 7: ค. 60 เซนติเมตร (จากกราฟ ในปี ค.ศ. 2100 กรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง (RCP8.5) ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เซนติเมตร และกรณีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปานกลาง (RCP4.5) ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เซนติเมตร ดังนั้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถลดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลได้ 100 – 40 = 60 เซนติเมตร)
คำถามข้อ 8: [แนวคำตอบ] นักวิทยาศาสตร์ ก. เน้นว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเป็นผลโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหา ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ ข. มองว่าการกัดเซาะชายฝั่งในประเทศไทยมีสาเหตุหลักจากกิจกรรมของมนุษย์โดยตรง เช่น การสร้างเขื่อน การสูบน้ำบาดาล มากกว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ทั้งสองมุมมองมีความแตกต่างในเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยนักวิทยาศาสตร์ ก. ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ ข. เน้นการจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเหมาะสม ทั้งสองแนวทางมีความสำคัญและควรดำเนินการควบคู่กันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุม
คำถามข้อ 9: [แนวคำตอบ] กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีความเสี่ยงสูงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำบริเวณอ่าวไทยตอนบนตามที่แสดงในแผนที่ และมีประชากรหนาแน่น ควรมีมาตรการรับมืออย่างเร่งด่วน เช่น การสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม การวางแผนการใช้ที่ดินที่คำนึงถึงความเสี่ยง และการพัฒนาระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ หากไม่มีการดำเนินการ ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจะรุนแรง เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ การลงทุนในมาตรการป้องกันและปรับตัวในปัจจุบันจะช่วยลดความสูญเสียในอนาคต
คำถามข้อ 10: [แนวคำตอบ] แนวทางการปรับตัวของชุมชนชายฝั่งควรประกอบด้วย
(1) การฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ป่าชายเลน แนวปะการัง เพื่อเป็นแนวป้องกันธรรมชาติ
(2) การพัฒนาอาชีพทางเลือกที่ยั่งยืนและปรับตัวได้ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
(3) การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบกักเก็บน้ำจืด
(4) การพัฒนาระบบเตือนภัยและแผนอพยพที่มีประสิทธิภาพ
และ (5) การสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการวางแผนและดำเนินการปรับตัว
สถานการณ์ที่ 3: การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
คำถามข้อ 11: ข. ต้องการความร่วมมือระดับโลก (จากตาราง ข้อจำกัดของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) คือ ต้องการความร่วมมือระดับโลก ต้องการการลงทุนสูง และผลลัพธ์ใช้เวลานาน)
คำถามข้อ 12: [แนวคำตอบ] จากกราฟแสดงให้เห็นว่า หากทั่วโลกดำเนินการตามนโยบายปัจจุบัน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะยังคงสูงกว่าเส้นทางที่จะนำไปสู่การจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และยิ่งห่างไกลจากเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส ดังนั้น นโยบายปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีส จำเป็นต้องมีการดำเนินการที่มากขึ้นและเข้มข้นขึ้น
คำถามข้อ 13: [แนวคำตอบ] การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีข้อดีคือแก้ไขปัญหาที่สาเหตุและลดความเสี่ยงในระยะยาว แต่มีข้อจำกัดคือต้องการความร่วมมือระดับโลก การลงทุนสูง และผลลัพธ์ใช้เวลานาน ส่วนการปรับตัวมีข้อดีคือรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว สามารถดำเนินการในระดับท้องถิ่น และเห็นผลเร็วกว่า แต่มีข้อจำกัดคือไม่แก้ไขปัญหาที่สาเหตุและมีขีดจำกัดในการรับมือ ประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับทั้งสองแนวทางควบคู่กัน โดยเน้นการปรับตัวในพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น พื้นที่ชายฝั่ง และดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักของประเทศ การดำเนินการทั้งสองแนวทางจะช่วยรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและลดความเสี่ยงในอนาคต
คำถามข้อ 14: [แนวคำตอบ] จากกราฟแสดงแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป้าหมายการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสมีความเป็นไปได้ต่ำ เนื่องจากแม้แต่การดำเนินการตามนโยบายปัจจุบันก็ยังห่างไกลจากเส้นทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว อุปสรรคสำคัญที่สุดคือการขาดความร่วมมือและเจตจำนงทางการเมืองในระดับโลกที่จะดำเนินการอย่างเข้มข้นและเร่งด่วน ประเทศต่างๆ มักให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจระยะสั้นมากกว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งต้องการการลงทุนสูงและอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น นอกจากนี้ ความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาในเรื่องความรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความสามารถในการรับมือก็เป็นอุปสรรคสำคัญ
คำถามข้อ 15: [แนวคำตอบ] โครงการ “โรงเรียนคาร์บอนต่ำ สู่ชุมชนยั่งยืน”
(1) วัตถุประสงค์: เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโรงเรียนและชุมชนโดยรอบ และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหมู่นักเรียนและชุมชน เป้าหมายคือลดการใช้พลังงานในโรงเรียนลง 20% ภายใน 1 ปี
(2) กิจกรรมประกอบด้วย การติดตั้งหลอดไฟ LED และเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน การจัดทำระบบคัดแยกขยะและธนาคารขยะรีไซเคิล การปลูกต้นไม้และพืชผักในโรงเรียน การรณรงค์ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน
(3) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องประกอบด้วย นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชนโดยรอบ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(4) การวัดผลความสำเร็จจะพิจารณาจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ปริมาณขยะที่ลดลงและอัตราการรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้น จำนวนต้นไม้ที่ปลูกและพื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการสำรวจความตระหนักและพฤติกรรมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของนักเรียนและชุมชนก่อนและหลังดำเนินโครงการ
หมายเหตุสำหรับครูผู้สอน
แบบทดสอบนี้ออกแบบตามแนวทางของ PISA ซึ่งเน้นการประเมินความสามารถของนักเรียนในการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการคิดขั้นสูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การประเมินค่า และการสร้างสรรค์
ลักษณะสำคัญของแบบทดสอบ
- ใช้สถานการณ์เป็นฐาน (Situation-Based): แบบทดสอบเริ่มต้นด้วยสถานการณ์หรือบริบทที่สมจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ใช้ข้อมูลที่หลากหลาย (Multiple Sources): แบบทดสอบประกอบด้วยข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ กราฟ ตาราง
- วัดทักษะการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking): คำถามเน้นการวัดทักษะการวิเคราะห์ การประเมินค่า และการสร้างสรรค์ มากกว่าการจดจำหรือความเข้าใจเบื้องต้น
- ใช้รูปแบบคำถามที่หลากหลาย (Various Question Formats): มีทั้งคำถามเลือกตอบและคำถามเขียนตอบ
คำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ
- การนำไปใช้: แบบทดสอบนี้เหมาะสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา อาจใช้เป็นการประเมินหลังการเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือใช้เป็นกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
- การตรวจให้คะแนนคำถามแบบเขียนตอบ: ควรพิจารณาจากประเด็นต่อไปนี้
- ความถูกต้องของเนื้อหาและการอ้างอิงข้อมูล
- ความชัดเจนและความสมเหตุสมผลของการให้เหตุผล
- ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นไปได้ของแนวทางที่นำเสนอ
- ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลและบูรณาการความรู้
- การให้ข้อมูลย้อนกลับ: หลังจากตรวจแบบทดสอบ ควรให้ข้อมูลย้อนกลับที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยชี้ให้เห็นจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา พร้อมแนวทางในการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
- การปรับใช้: ครูสามารถปรับเนื้อหาและระดับความยากของแบบทดสอบให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน หรืออาจเลือกใช้เพียงบางสถานการณ์หรือบางข้อคำถาม
- การบูรณาการกับการจัดการเรียนรู้: แบบทดสอบนี้สามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เป็นกรณีศึกษาหรือสถานการณ์ในการอภิปราย วิเคราะห์ และแก้ปัญหาร่วมกันในชั้นเรียน
แหล่งข้อมูลอ้างอิงที่ใช้ในการสร้างแบบทดสอบ
สถานการณ์ที่ 1: ก๊าซเรือนกระจกและอุณหภูมิโลก
- ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก:
- NASA Goddard Institute for Space Studies. (2023). GISS Surface Temperature Analysis (GISTEMP v4). https://data.giss.nasa.gov/gistemp/
- IPCC. (2021). Climate Change 2021: The Physical Science Basis. Contribution of Working Group I to the Sixth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change. Cambridge University Press. https://www.ipcc.ch/report/ar6/wg1/
- ข้อมูลปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ:
- NOAA Global Monitoring Laboratory. (2023). Trends in Atmospheric Carbon Dioxide. Mauna Loa, Hawaii. https://gml.noaa.gov/ccgg/trends/
- Global Carbon Project. (2022). Global Carbon Budget 2022. https://www.globalcarbonproject.org/carbonbudget/
- ข้อมูลแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก:
- IPCC. (2022). Climate Change 2022: Mitigation of Climate Change. Contribution of Working Group III to the Sixth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change. https://www.ipcc.ch/report/ar6/wg3/
- World Resources Institute. (2022). Climate Watch Data. https://www.climatewatchdata.org/
สถานการณ์ที่ 2: ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระดับน้ำทะเล
- ข้อมูลการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล:
- IPCC. (2021). Special Report on the Ocean and Cryosphere in a Changing Climate. https://www.ipcc.ch/srocc/
- NASA Sea Level Change Portal. (2023). Understanding Sea Level. https://sealevel.nasa.gov/
- ข้อมูลผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทย:
- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.). (2563). รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563. https://www.onep.go.th/
- กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. (2564). สถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย. https://www.dmcr.go.th/
- ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน. (2564). ข้อมูลสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่ง. http://www.dmcr.go.th/uppergulf/
- ข้อมูลการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล:
- IPCC. (2021). Climate Change 2021: The Physical Science Basis. Contribution of Working Group I to the Sixth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change. Cambridge University Press. https://www.ipcc.ch/report/ar6/wg1/
- World Climate Research Programme (WCRP) Sea Level Budget Group. (2022). Global sea-level budget and ocean-mass budget. https://wcrp-climate.org/gc-sea-level
สถานการณ์ที่ 3: การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ข้อมูลความตกลงปารีสและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก:
- United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC). (2015). The Paris Agreement. https://unfccc.int/process-and-meetings/the-paris-agreement/the-paris-agreement
- Climate Action Tracker. (2023). 2100 Warming Projections. https://climateactiontracker.org/global/temperatures/
- ข้อมูลแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัว:
- IPCC. (2022). Climate Change 2022: Impacts, Adaptation and Vulnerability. Contribution of Working Group II to the Sixth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change. https://www.ipcc.ch/report/ar6/wg2/
- IPCC. (2022). Climate Change 2022: Mitigation of Climate Change. Contribution of Working Group III to the Sixth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change. https://www.ipcc.ch/report/ar6/wg3/
- ข้อมูลประเทศไทยและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ:
- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.). (2564). รายงานความก้าวหน้ารายสองปี ฉบับที่ 3 (Third Biennial Update Report). https://unfccc.int/BURs
- องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน). (2564). รายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย. http://www.tgo.or.th/
- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.). (2564). แผนพลังงานแห่งชาติ. https://www.eppo.go.th/
แหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมสำหรับครูผู้สอน
- แนวทางการประเมินของ PISA:
- OECD. (2019). PISA 2018 Assessment and Analytical Framework. Paris: OECD Publishing. https://doi.org/10.1787/b25efab8-en
- สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2564). ตัวอย่างข้อสอบการประเมินระดับนานาชาติ PISA. https://pisathailand.ipst.ac.th/sample-pisa/
- การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ:
- UNESCO. (2019). Climate Change Education and Education for Sustainable Development. https://en.unesco.org/themes/education-sustainable-development/cce
- Climate Literacy & Energy Awareness Network (CLEAN). (2023). Teaching Climate. https://cleanet.org/index.html
- สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย. (2563). คู่มือการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ. http://www.tei.or.th/
คำนวนข้อความ บางส่วนจากการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลประกอบการเขียนบมความ
ดร.อนุศร หงษ์ขุนทด
Power by claude.ai
อ้างอิง
Claude. (2024). Claude (Oct 2024 version) [แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง ตามแนวทาง VASK (Values-Attitudes-Skills-Knowledge) และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21]. https://claude.ai/